มันถูกอะเรื่องของเรื่อง ตอนแรกผมก็มองพวก Visang AKG Sennheiser ไว้เหมือนกัน
แต่ไปอ่านๆ ถามๆ ศึกษามาเรื่อยๆ Visang ก็ เด่นเรื่องกลางแหลม ซึ่งส่วนตัวผมชอบหูฟังที่เบสนำนิดๆ
ผมก็เลยมาตกที่ตัวนี้ นั้นเอง
ถึงอย่างไรผมก็ไม่ได้เป็น เทพหูทอง แต่ผมก็ฟังมาพอสมควร ผมชอบและรักการฟังเพลงมากๆครับ
ใครเหมาะกับหูฟัง In-Ear บ้าง?
1.คนที่ใช้ชีิวิตคนเดียวเป็นหลัก
2.คนที่ไม่ต้องการเสียงรบกวนรอบข้าง อยากฟังแต่เสียงดนตรีเนื้อๆ เน้นๆ
In-Ear มีข้อเสียอะไรบ้าง?
1.ใส่นานๆแล้วอุดอู้
2.เปิดดังแล้วเสียงจะน่ารำคาญ
3.ไม่เหมาะกับการฟังเพลงติดต่อกันนานๆ ผมฟังนานๆแล้วปวดหัว ถ้าเปิดดังน่ะ
4.แทบจะไม่ได้ยินเสียงรอบข้างเลย อาจเป็นอันตรายได้ เวลาเดินทาง
Technical Specifications
- Driver: Dynamic 10mm Neodymium
- Frequency range: 15Hz - 22kHz
- Impedance: 16Ω
- Sensitivity: 100dB at 1kHz/mW
- Cable length: 1.2m
- Connection: Gold-plated straight stereo 3.5mm
- Earphone body material: Aluminium
- Weight: 11g
จุกมีมาให้ทั้งหมด 4 จุก (รวมจุกที่ติดมากับหูฟังด้วย) จุกที่ติดมากับหูฟังจะขนาดกลาง
เล็ก , กลาง , ใหญ่ , และ จุก2ชั้น ทั้งหมด4 คู่
มาชมกันใกล้ๆ ว่าสกรีน อะไรกันมาให้บ้าง
สรุป โดยรวม
หูฟังตัวนี้ผมซื้อมาตั้งแต่ตอนปีใหม่ล่ะ ใช้ฟังได้ซักพักนึง ฟังแทบจะทุกวัน
ผมมองว่า หูฟังตัวนี้มีโทนเสียงออกไปแนวๆเบสนำๆ สำหรับผม ผมว่ามันไม่เยอะน่ะ ไม่ตูมตามเยอะแบบ Beats เลย จุดเด่ง คงเป็นเสียงโดยรวมมากกว่า คือ เสียงแหลมก็ไม่แหลม บาดหู เสียงเบสก็ไม่ตูมตาม แบบมึนหัว มันมากลางๆ ทั้งหมด
ข้อเสียคือ Stage มันแคบ ไม่กว้างขว้างมากนัก เสียง ซ , ช , ฉ ค่อนข้างน่ารำคาญ แต่ถ้าไม่ตั้งใจฟัง คงไม่มีปัญหา แต่มันเด่นพอสมควร
เอาเป็นว่าใครที่ต้องการหูฟัง In-Ear ที่ไม่ได้เน้นการฟังเพลงอย่างจริงๆจังแบบผมและ เสียดายเงิน ผมว่าตัวนี้เหมาะสมที่สุดแล้วล่ะครับ
แต่ถ้าใคร เน้นเสียง ต้องการฟังเพลงอย่างจริงๆ จังๆ ควรมองข้ามตัวนี้ไปเลย กับราคา 1000 ต้นๆ ผมว่าเฉยๆ ไม่ได้คุ้มค่า มากมายเท่าไหร่
แต่ผมแค่ต้องการหูฟัง In-Ear ที่ไม่เกิน 2000 บาทมา ใช้นั้นเอง
No comments:
Post a Comment